Sword Master ดาบปราบเทวดา

Sword Master (2016) ดาบปราบเทวดา

No votes

 

Sword Master ดาบปราบเทวดา

Sword Master ดาบปราบเทวดา หนังจีนกำลังภายในฟอร์มใหญ่ที่น่าสนใจมาก เพราะมีทั้งชื่อ เอ๋อ ตงเซิน อดีตดารายุคชอว์บราเดอร์ที่กลายมาเป็นผู้กำกับฝีมือดี (ดับแผนล่า กระสุนสั่งตาย 2012 , ใหญ่แค้นเดือด 2009 ) ฉีเคอะ มาอำนวยการสร้าง และดัดแปลงบทภาพยนตร์เองจากเรื่อง “ซาเสียวเอี้ย” อีกหนึ่งบทประพันธ์อมตะของ โกวเล้ง

แต่หนังเวอร์ชั่นนี้บอกว่าไม่ได้อิงมาจากนิยาย แต่เป็นการรีเมคหนัง “ศึกล้างเจ้ายุทธจักร 1977″อีกที ซึ่งเป็นหนังที่ เอ๋อตงเซิน เคยรับบทนำในยุคแรก ๆ ที่เข้าวงการแสดง ด้วยทีมงานที่น่าเชื่อถือ งานนี้เอ๋อ ตงเซิน เลยเลือกใช้นักแสดงหน้าใหม่ในบทนำทั้งสิ้น เพราะมั่นใจว่าชื่อของเขา ฉีเคอะ โกวเล้ง ก็น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนดูได้แล้ว หนังเปิดเรื่องที่ตัวจอมยุทธ อี้จับซา กับภาพลักษณ์ที่ฉีกแนวจอมยุทธที่เราเคยผ่านตากันมา

ใบหน้าสักลายพร้อยและอายชาโดว์ดำรอบดวงตาผมเผ้ากระเซิงดูแล้วเหมาะไปยืนบนเวทีเฮวี่เมตัล  อี้จับซาเป็นจอมยุทธที่กระหายชื่อเสียงและชัยชนะ เขาตระเวนปราบจอมยุทธทั่วแผ่นดินมาหมดสิ้นแล้ว เหลือแต่เพียงซาเสียวเอี้ยคุณชายสาม แห่งบ้านเทพกระบี่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในยุทธภพ

ส่วนตัวซาเสียวเอี้ยนันก็เบื่อกับเหล่าจอมยุทธมากหน้า ที่มาท้าประลองเพราะหวังที่จะสยบเขาเพื่อขึ้นเป็นหนึ่งในยุทธจักร และยังต้องการหนีจากมู่หรงฉิวตี้ คนรักที่ถูกพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายหวังจะให้แต่งงานกันเพื่อความยิ่งใหญ่ของสองตระกูล ซาเสียวเอี้ยจึงออกข่าวว่าตัวเขาเองตายไปแล้ว และออกจากยุทธภพ ปลอมตัวเป็นอาฉีชายเร่ร่อนไปทำงานเป็นคนรับใช้ในสำนักนางโลม

ที่นี่เขาได้ใกล้ชิดกับ เสี่ยวลี่(บทเดิมของ หวีอันอัน) และได้ไปพักอยู่กับครอบครัวของนาง อาฉีได้พบกับชีวิตเรียบง่ายที่สุขสงบ ได้รับความเอ็นดูจากอี้จับซา ที่ช่วยสอนเพลงดาบให้กับเขาด้วย แต่ท้ายที่สุดมู่หรงฉิวตี้ ก็ตามเขาจนพบทำให้ความแตกทุกคนรู้ว่าเขาเป็นซาเสียวเอี้ย รวมทั้งอี้จับซาด้วย ทำให้ต้องเกิดการประลองของยอดฝีมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“Sword Master” ดาบปราบเทวดา ถือเป็นหนังจีนกำลังภายในชั้นดีที่ห่างหายจากจอภาพยนตร์ไปนานมาก ตอบสนองแฟนหนังแนวนี้ได้น่าพอใจ ดึงเสน่ห์เก่า ๆ กลับมาได้เกือบครบ ได้เห็นวิทยายุทธต่าง ๆ ที่ไม่ได้เห็นกันมานานแล้วตั้งแต่ยุคหนังจีนบนทีวีเฟื่องฟู การฟาดฟันกระบี่ วิชาตัวเบาที่วิ่งไปมาบนกำแพง การตั้งค่ายกล การใช้วิชาสกปรก สาดอาวุธลับของพรรคมาร

และที่สำคัญสุดได้เห็นหน้า ฉีเส้าเฉียน ที่วันนี้ต้องมาเล่นบทพ่อ ไม่เหลือเค้า ฮุ้นปวยเอี้ยง ในอดีตซะแล้ว หนังมีอารมณ์ขันแทรกอยู่เนือง ๆ ทำให้หนังไม่ซีเรียสเกินไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *